ปีนี้เป็นปีแห่งการเข้าซื้อกิจการของ WordPress จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นกิจการโฮ้สต์ติ้งที่ WPEngin เข้าซื้อ Flywheel หรือเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน Ninja Form ก็เข้าซื้อ Caldera Form มาตอนนี้ เจ้าใหญ่เจ้าของแพลตฟอร์ม WordPress อย่าง Automattic ก็ได้เข้าซื้อกิจการ Tumblr เรียบร้อย
Tumblr เคยเป็นหนึ่งในโซเชี่ยวคอมมิวนิตี้ที่ได้้รับความนิยมอยู่ช่วงนึงเช่นเดียวกับโซเชี่ยวอื่นๆ อย่าง MySpace หรือ Hi5 ที่ได้รับความนิยมากเช่นกัน และก็ซาลงในภายหลัง Tumblr เคยถูกซื้อโดย Yahoo เมื่อ 6 ปีก่อน ก่อนที่ Yahoo ก็ถูกซื้อโดย Verizon ไปเมื่อไม่กี่ปีที่แล้วเช่นกัน
นี่ถือเป็นการซื้อกิจการครั้งใหญ่ของ Automattic ที่มีมูลค่าสูงถึง 20 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว ซึ่งเป็นการเพิ่มจำนวนบุคลากรของบริษัทให้มากขึ้นอีกด้วย เนื่องจากพนักงานของ Tumblr กว่า 200 คน จะถูกย้ายมาทำงานต่อให้กับ Automattic ด้วย ซึ่งทำให้บริษัทมีพนักงานร่วม 1000 คน จากเดิมที่ Automattic ถือว่าเป็นบริษัทระดับใหญ่ที่มีพนักงานน้อยที่สุดเพียงไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น
นอกเหนือจากการเข้าซื้อกิจการแล้ว Matt Mullenweg ผู้ก่อตั้ง Automattic ยังได้พูดถึงแนวทางในการปรับเปลี่ยน Tumblr หลายอย่าง อาทิเช่น
- ย้ายโครงสร้างของเดิมจาก Verizon
- รองรับ APIs เดียวกันทั้ง WordPress.comและ Tumblr
- เปลี่ยนการใช้งานระบบหลังบ้านมาเป็น WordPress
- เปลี่ยน Client ให้เป็นเช่นเดียวกับ Calypzo ของ WordPress
Automattic จะไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนการใช้งาน Frontend ของ Tumblr มากนัก เนื่องจากโดยปกตินั้น มีคนสมัครใช้งาน Tumblr แอปบนมือถือมากกว่าตัวแอปของ WordPress เองถึง 20 เท่าอยู่แล้ว
สำหรับใครที่สงสัย Automattic จะยังคงแบนเนื้อหา 18+ ต่อไป หลังจากที่ Tumblr ได้ประกาศแบนจริงจังไปเมื่อปีที่แล้วนะจ๊ะ
การเข้าซื้อ Tumblr นับเป็นการขยายขอบเขตการใช้งานและส่วนแบ่งการตลาดของ WordPress ให้กว้างขึ้นไปอีก โดยเฉพาะในกลุ่มวันรุ่นอายุ 18-24 ปี ที่มีผลการสำรวจว่าใช้ Tumblr เป็นจำนวนมาก
หลังจากที่ Tumblr เปลี่ยนระบบมาใช้ WordPress แล้ว ก็อาจจะนำมาซึ่งความสามารถในการใช้งาน Ecommerce และปลั๊กอินของ WordPress ในอนาคตได้ด้วย ซึ่งอาจจะเป็นในแบบเปิด หรืออาจจะเป็นแบบพัฒนาภายในโดย WordPress เองก็ได้
ถึงแม้ว่าผู้ใช้งาน WordPress บางคน อาจจะไม่คุ้นกับ Tumblr แต่ในโลกโซเชี่ยวมีเดียแพลตฟอร์มนั้น Tumblr มีผู้ใช้งานที่โพสบล็อกมากถึง 475.1 ล้านโพสเลยทีเดียว ดังนั้น การก้าวเดินครั้งนี้ของ WordPress จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจและติดตามมากเลยทีเดียว
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : WPTavern
Related Posts
